เรอัล มาดริด ส่งบอลตุงตาข่ายได้ตั้งแต่นาทีที่ 6 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลให้ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ซัดเข้าไป ทว่าวีเออาร์จับล้ำหน้าเสียก่อน

นาที 18 กลับเป็น มายอร์ก้า ที่พลิกนำก่อน 1-0 ปาโบล ตอร์เร่ เปิดเตะมุมฝั่งซ้ายให้ เวดัต มูรีกี เบียดขึ้นโหม่งส่งบอลเข้าเสาไกลสวยงาม

ทัพราชันพยายามลุยหนักเพื่อตีเสมอให้ได้ และมีลุ้นในนาที 31 เอ็มบั๊ปเป้ ผ่านบอลให้ ชูอาเมนี่ กดด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่ว่าติดเซฟ

อีก 6 นาทีถัดมา เรอัล มาดริด ตามตีเสมอจนได้จากเตะมุมที่ ดีน เฮาเซ่น โหม่งเช็ดจังหวะแรกก่อนเป็น อาร์ดา กูเลอร์ โหม่งจ่อๆ อีกทีเข้าไปเป็น 1-1

มาดริด พลิกนำ 2-1 จากการเล่นโต้กลับ วินิซิอุส รับบอลจาก วัลเวร์เด้ ก่อนลากจากการลงสนามจนลุยเข้าเขตโทษแล้วยิงด้วยซ้ายเสียบตาข่ายอย่างสุดยอด

ครึ่งหลังนาที 55 ฟรังโก้ มาสตันดูโอโน่ ได้จังหวะล็อกหนีผู้เล่นทีมเยือนอย่างเหนือชั้นก่อนยิงด้วยขวาติดเซฟ มาร์ติน วาลเยนต์ พยายามเคลียร์แต่บอลเด้ง 2-3 จังหวะก่อนตกเข้าทาง อาร์ดา กูเลอร์ ยิงเสียบเสาแรกเข้าไป ทว่ามีการเช็กวีเออาร์ก่อนชี้ขาดว่าบอลโดนมือ กูเลอร์ ก่อนยิง มาดริด จึงยังไม่ได้เพิ่ม

นาที 65 มายอร์ก้า เกือบตีเสมอได้สุดๆ เวดัต มูรีกี ยิงจังหวะแรกติดเซฟ ก่อนเพื่อนร่วมทีมอย่าง ซามู คอสต้า ได้เก็บตกวอลเลย์ด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลกำลังจะเสียบเสาไกลอยู่แล้ว ทว่า อัลบาโร่ การ์เรราส พุ่งแหย่เท้าสกัดทิ้งข้ามคานได้เหลือเชื่อ

อีก 7 นาทีถัดมา มาดริด มีลุ้นอีก เอ็มบั๊ปเป้ จ่ายให้ บราอิม ดีอาซ ซัดด้วยขวาระยะไกล บอลเข้ากรอบ แต่ไม่ผ่านมือ เลโอ โรมัน

ช่วงเวลาที่เหลือ เรอัล มาดริด ยิงเพิ่มไม่ได้ แต่ก็รักษาสกอร์นำเอาไว้ได้ทำให้จบเกมด้วยการเฉือนชนะ มายอร์ก้า 2-1 ทำให้ชนะ 3 นัดรวด พร้อมขึ้นนำจ่าฝูง

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa