บาร์เซโลน่า ไม่มี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่บาดเจ็บ แนวรุกจึงนำโดย ราฟินญ่า และ ลามีน ยามาล ส่วนหัวหอกตัวใหม่อย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด มีชื่อสำรอง

เริ่มเกมมาเพียง 7 นาที บาร์เซโลน่า ออกนำเร็ว 1-0 ลามีน ยามาล ได้บอลฝั่งขวาก่อนเปิดโด่งเข้าเขตโทษ ราฟินญ่า วิ่งสอดเข้าไปโขกในกรอบหกหลาตุงตาข่าย

นาที 21 มายอร์ก้า มีโอกาสบ้างจากการต่อบอลจนทะลุเข้าเขตโทษก่อนเป็น มาเตว โมเรย์ จ่ายให้ เวดัต มูรีกี ยิงไม่กี่หลา แต่ซัดติดเซฟ โจน การ์เซีย

พอทำไม่ได้กลับเป็นบาร์ซ่าที่นำเพิ่มเป็น 2-0 ยามาล ยิงจังหวะแรกติดหัว อันโตนิโอ ไรโย่ อย่างจังจนทรุดนอนกับพื้น แต่บาร์ซ่าเล่นต่อ เฟร์ราน ตอร์เรส เกี่ยวบอลได้ก่อนยิงหน้าเขตโทษตุงตาข่ายท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นเจ้าถิ่นที่หยุดชะงักเพราะเพื่อนเจ็บ แต่สุดท้ายผู้ตัดสินยังยืนยันให้เป็นประตู

นาที 33 มายอร์ก้า เหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ มานูเอล มอร์ลาเนส ได้ใบเหลืองที่สองหลังทำฟาวล์ ยามาล จึงกลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไป

สถานการณ์ของเจ้าถิ่นทรุดหนักไปอีกเมื่อนาที 39 เวดัต มูรีกี หัวหอกตัวเก่งได้ใบแดงอีกรายหลังผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์มองว่าเล่นอันตรายในจังหวะยกเท้าสูงเข้าแย่งบอลจนปะทะกับ โจน การ์เซีย นายทวารบาร์ซ่า ทำให้เจ้าถิ่นเหลือผู้เล่นเพียง 9 คน

ครึ่งหลังนาที 59 บาร์เซโลน่า เกือบได้ประตูที่สาม เฟร์ราน ตอร์เรส จ่ายให้ ราฟินญ่า ปั่นเน้นๆ ด้วยซ้ายตรงหัวกะโหลก แต่บอลเช็ดเสาเหลี่ยมนอกเด้งออกหลังไป

บาร์ซ่า ไม่ได้เร่งเกมมากนักแม้เหนือกว่ามากทั้งตัวผู้เล่นและสกอร์ ก่อนจะทยอยถอดตัวจริงทั้ง เฟร์ราน ตอร์เรส และ เปา กูบาร์ซี่ ออกไปพัก และให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ประเดิมสนาม

นาที 69 ดานี่ โอลโม่ ที่ลงเป็นสำรอง มีโอกาสยิงเพิ่มให้ทีมหลังวิ่งเข้าซัดในเขตโทษเน้นๆ ทว่าบอลชนเสาอย่างจัง

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บาร์เซโลน่า มาได้ประตูย้ำชัยจากลูกเก่งของ ลามีน ยามาล ที่ได้บอลแล้วโยกเข้าซ้ายก่อนปั่นจากเส้นเขตโทษส่งบอลเสียบสามเหลี่ยมงามหยด ทำให้จบเกม บาร์เซโลน่า ประเดิมฤดูกาลใหม่เอาชนะ มายอร์ก้า 3-0

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa